หน้าแรก >บทความ
<div><div>
<figure class="wp-block-image size-large"><img src="https://pjyjntwzszymfzyqkfvu.supabase.co/storage/v1/object/public/content/2021/8/017a15f1-2046-46b5-8686-82f8960f9444.png" alt="" class="wp-image-75444" /></figure>
<p id="h-100">ในช่วงปลายปีที่ผ่านมา หลายคนน่าจะได้รับจดหมายแจ้ง ภาษีที่ดิน สิ่งปลูกสร้างกันไปบ้างแล้ว และเนื่องจากเป็นการดำเนินงานครั้งแรกที่ระบบต่างๆ อาจจะยังไม่สมบูรณ์พร้อม 100 เปอร์เซ็นต์ ทำให้บางคนได้รับจดหมายแจ้งไม่ครบตามจำนวนที่ดิน สิ่งปลูกสร้างที่ตนเองถือครองไว้ แต่ก็ไม่ต้องเป็นกังวล เพราะสุดท้ายก็จะมีการจัดการให้เสร็จสิ้นทั้งหมดอยู่ดี สิ่งที่เราต้องให้ความสนใจ มีแค่ว่าทำอย่างไรหลังจากได้รับจดหมายไปแล้วมากกว่า วันนี้แอดมินจึงอยากนำเสนอวิธีจัดการ เมื่อได้รับจดหมายแจ้งภาษีที่ดิน และสิ่งปลูกสร้าง พร้อมบอกสูตรคำนวณภาษีบ้าน และคอนโด ถ้าอยากรู้ว่าจะใช้วิธีไหน ติดตามบทความด้านล่างนี้ได้เลยค่ะ</p>
<figure class="wp-block-image size-full"><img src="https://pjyjntwzszymfzyqkfvu.supabase.co/storage/v1/object/public/content/2021/8/0698836b-3579-4403-8243-fe9eddade861.png" alt="" class="wp-image-75445" /></figure>
<h4 id="h-"><strong>ทำอย่างไรเมื่อได้รับจดหมายภาษีที่ดิน</strong><strong></strong></h4>
<p> หลังจากได้รับจดหมายแจ้งภาษีที่ดิน และสิ่งปลูกสร้างแล้ว ก็อย่าพึ่งตกใจไปว่าจะต้องเสียภาษีเท่าไร รายรับยังไม่ค่อยเพิ่ม แต่รายจ่ายเพิ่มอีกแล้ว ให้ใจเย็นๆ ก่อนค่ะ อย่าลืมว่าเราอาจจะอยู่ในกลุ่มที่ไม่ต้องเสียภาษีก็ได้ หรือถ้าเสียก็อาจจะไม่ได้มากอย่างที่คิดเอาไว้ เพราะมีส่วนที่ได้รับการยกเว้นอยู่ด้วย ให้ค่อยๆ ทำตามขั้นตอน ที่เราจะแนะนำดังต่อไปนี้ คือ</p>
<p>1. ตรวจสอบรายละเอียดในจดหมายแจ้งให้ครบถ้วน ส่วนนี้มีผลต่อการเสียภาษีของเราอย่างมาก เพราะการระบุประเภท ขนาด และการใช้ประโยชน์นั้น เป็นสิ่งที่จะถูกนำไปคิดภาษีตามเงื่อนไขทั้งหมด หากไม่ถูกต้องตามความเป็นจริง ก็ต้องยื่นคำร้องเพื่อขอแก้ไข ยิ่งถ้าข้อมูลของประเภทที่ดิน หรือสิ่งปลูกสร้างผิดเพี้ยนไป จากเดิมที่เราไม่ต้องจ่ายภาษี กลับกลายเป็นว่าต้องจ่าย หรือจ่ายในอัตราที่สูงกว่าปกติ ก็ต้องรีบแก้ไขโดยด่วน</p>
<p>2. ตรวจสอบแบบประเมินภาษี ว่าข้อมูลที่มีการประเมินภาษีที่ดิน และสิ่งปลูกสร้างมา ตรงตามมูลค่าของการใช้ประโยชน์จริงหรือไม่ ส่วนนี้สามารถยื่นขอแก้ไขได้เหมือนกัน หากเห็นว่าไม่ถูกต้อง ในเบื้องต้นจะใช้แค่เลขบัตรประชาชน และประเภทของธุรกิจเท่านั้นในการยื่นเรื่อง และที่มีคำถามกันมาก ก็คือ ประเมินยังไงถ้าใช้ประโยชน์จากพื้นที่หลายแบบ ก็ให้คำนวณตามจริงได้เลย ใช้ทำอะไร ในพื้นที่เท่าไรก็คิดตามนั้น แล้วค่อยนำมารวมกัน </p>
<p>3. รอการชำระภาษี เมื่อตรวจข้อมูลทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว ก็แค่รอเวลาให้ถึงวันที่ต้องไปเสียภาษี ซึ่งจากเดิมที่ต้องจ่ายกันตั้งแต่ต้นปี มีการเลื่อนกำหนดไปไว้ช่วงปลายปีแล้ว แต่ยังไงก็ต้องคอยติดตามข่าวสารกันเป็นระยะๆ นอกจากนี้เราสามารถจ่ายภาษีเป็นเงินก้อนครั้งเดียว หรือจะทำเรื่องขอผ่อนชำระเป็นงวดๆ ไปก็ได้เหมือนกัน สูงสุดได้ 3 งวด และจ่ายงวดแรกพร้อมกับคนอื่นๆ ที่จ่ายเต็มจำนวน ถ้ามีการละเลยไม่จ่ายเงินให้ครบถ้วน จะมีหนังสือแจ้งเตือนไปอีก แต่ยังไม่มีชี้แจงว่ามีบทลงโทษอย่างไร</p>
<figure class="wp-block-image size-full"><img src="https://pjyjntwzszymfzyqkfvu.supabase.co/storage/v1/object/public/content/2021/8/a26cb3fd-6721-4d37-8570-c1d276942e8b.png" alt="" class="wp-image-75446" /></figure>
<h4 id="h--1"><strong>การดำเนินการเมื่อรายละเอียดในจดหมายภาษีที่ดินมีปัญหา</strong><strong></strong></h4>
<p> เราอาจพบเจอปัญหาในจดหมายแจ้งภาษีที่ดิน และสิ่งปลูกสร้างได้หลายรูปแบบ แต่หลักๆ ก็คือ ข้อมูลที่ระบุมาไม่ถูกต้องตามความเป็นจริง เช่น ขนาดพื้นที่ไม่ถูกต้อง ประเภทการใช้สอยไม่ถูกต้อง ชื่อของเจ้าของบ้านไม่ถูกต้อง เป็นต้น สิ่งที่ต้องรู้ ก็คือ การยื่นเรื่องแก้ไขข้อมูลเหล่านี้ต้องทำให้เสร็จสิ้นภายใน 15 วัน ไม่อย่างนั้นจะถือว่าข้อมูลถูกต้องแล้ว จะไปแก้ไขหลังจากนั้น ก็ยังไม่มีรายละเอียดว่าทำได้หรือไม่ อย่างไร</p>
<p> แม้ว่าในจดหมายที่เราได้รับจะมีคิวอาร์โค้ด สำหรับการแจ้งขอเปลี่ยนแปลงข้อมูลอยู่ แต่วิธีที่อยากจะแนะนำ เป็นการเดินทางไปติดต่อที่สำนักเขตโดยตรง เพื่อไม่ให้เกิดข้อผิดพลาด และลดความล่าช้าที่เป็นผลเนื่องมาจากระบบ ส่วนเอกสารที่ต้องใช้ ยังขึ้นอยู่กับหน่วยงานในแต่ละพื้นที่ ไม่มีข้อกำหนดอะไรออกมาชัดเจน ดังนั้นแต่ละเขตก็จะมีความยากง่ายต่างกันไป</p>
<p> หลังจากแก้ไขมาเรียบร้อยแล้ว ก็อย่าลืมตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง หากยังมีจุดผิดก็ต้องยื่นเรื่องแก้ไขกันอีก แต่คาดว่าจะดำเนินการได้รวดเร็วกว่าการแจ้งครั้งแรก เพราะมีข้อมูลพร้อมเอกสารต่างๆ อยู่ก่อนแล้ว และสำหรับคนที่คิดจะหาช่องโหว่ เพื่อลดภาษีให้ตัวเอง ด้วยการขอระบุประเภทการใช้งานไม่ตรงตามความเป็นจริง ต้องบอกว่าได้ไม่คุ้มเสีย เมื่อมีการตรวจสอบอาจจะมีค่าปรับ และจะทำให้มีปัญหาไปถึงภาษีเงินได้ส่วนอื่นๆ อีกด้วยค่ะ</p>
<figure class="wp-block-image size-full"><img src="https://pjyjntwzszymfzyqkfvu.supabase.co/storage/v1/object/public/content/2021/8/25451b7c-0de3-44f4-a739-e720b9fd8eac.png" alt="" class="wp-image-75448" /></figure>
<h4 id="h--2"><strong>หลักการคำนวณภาษีบ้าน และคอนโดมิเนียมต่างกันอย่างไร</strong></h4>
<p> อันดับแรก เราจะมาดูหลักการคำนวณภาษีที่ดิน และสิ่งปลูกสร้าง เพื่อใช้ประเมินแบบคร่าวๆ ว่าเราจะต้องจ่ายภาษีหรือไม่ หรือเป็นจำนวนเงินประมาณเท่าไร โดยจะเจาะประเด็นที่คนให้ความสนใจมากที่สุดกันก่อน นั่นก็คือภาษีของบ้าน กับภาษีของคอนโดมิเนียม</p>
<p><strong>หลักการคำนวณภาษีบ้าน</strong><strong></strong></p>
<p> จะแบ่งการคิดเป็น 2 กรณี ได้แก่ กรณีที่บุคคลเป็นเจ้าของทั้งที่ดิน และสิ่งปลูกสร้าง กับกรณีที่บุคคลเป็นเจ้าของเฉพาะสิ่งปลูกสร้างเท่านั้น เงื่อนไขของทั้ง 2 กรณี ก็คือ ผู้ที่เป็นเจ้าของจะต้องมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านด้วย วิธีการคิดภาษีจะวัดตามการประเมินมูลค่า ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้</p>
<p><strong>กรณีที่ </strong><strong>1</strong></p>
<p> - บ้านพร้อมที่ดิน มูลค่าต่ำกว่า 50 ล้านบาท ได้รับการยกเว้น ไม่ต้องเสียภาษี</p>
<p> - บ้านพร้อมที่ดิน มูลค่า 50-75 ล้านบาท คิดภาษี 0.03 %</p>
<p> - บ้านพร้อมที่ดิน มูลค่า 75-100 ล้านบาท คิดภาษี 0.05%</p>
<p> - บ้านพร้อมที่ดิน มูลค่ามากกว่า 100 ล้านบาท คิดภาษี 0.1%</p>
<p><strong>กรณีที่ </strong><strong>2</strong></p>
<p> - บ้าน มูลค่าต่ำกว่า 10 ล้านบาท ได้รับการยกเว้น ไม่ต้องเสียภาษี</p>
<p> - บ้าน มูลค่า 10-50 ล้านบาท คิดภาษี 0.02%</p>
<p> - บ้าน มูลค่า 50-75 ล้านบาท คิดภาษี 0.03%</p>
<p> - บ้าน มูลค่า 75-100 ล้านบาท คิดภาษี 0.05%</p>
<p> - บ้าน มูลค่ามากกว่า 100 ล้านบาท คิดภาษี 0.1%</p>
<p> จะเห็นว่าการคิดภาษีที่ดิน และสิ่งปลูกสร้างของบ้านนั้น ค่อนข้างมีตัวเลขที่แน่ชัดอยู่แล้ว แต่หากเป็นคอนโดมิเนียม การคิดภาษีจะต่างกันไป เพราะจะเปลี่ยนเป็นการคิดแบบขั้นบันได ทั้งยังมีการใช้สูตรในการคำนวณอีกด้วย</p>
<p><strong>หลักการคำนวณภาษีคอนโดมิเนียม</strong><strong></strong></p>
<p> การคิดภาษีของคอนโดมิเนียมจะมีรายละเอียดมากกว่า จำเป็นต้องใช้ข้อมูลทั้งการประเมินมูลค่า และขนาดของพื้นที่ แล้วนำมาเข้าสูตรสมการตามด้านล่างนี้ จากนั้นก็หักลบกับเงื่อนไขของแต่ละประเภทคอนโดมิเนียมอีกทีหนึ่ง ถึงจะได้จำนวนเงินที่ต้องจ่ายจริง</p>
<p><strong>สูตรการคำนวณภาษีคอนโดมิเนียม</strong></p>
<p>(ราคาประเมินต่อตารางเมตร x ขนาดพื้นที่ห้องชุด) = (มูลค่าของคอนโดมิเนียม x อัตราภาษีขั้นบันได)</p>
<p>โดยมีการจำแนกประเภทของคอนโดมิเนียมออกเป็น 3 กลุ่ม ซึ่งมีเงื่อนไขในการคิดภาษีที่ดิน และสิ่งปลูกสร้างต่างกัน ดังนี้</p>
<p> - คอนโดมิเนียมหลังแรก และมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน จะได้รับการยกเว้นภาษี 50 ล้านแรก</p>
<p> - คอนโดมิเนียมหลังที่ 2 เป็นต้นไป ไม่มีชื่อในทะเบียนบ้าน ให้คิดภาษีทั้งหมดไม่มีส่วนยกเว้น</p>
<p> - คอนโดมิเนียมปล่อยเช่า จะคิดภาษีทั้งหมด และคิดในอัตราที่สูงที่สุด </p>
<p>นี่คือ สิ่งที่เราควรทำ เมื่อได้รับจดหมายแจ้งภาษีที่ดิน และสิ่งปลูกสร้าง คือ การตรวจสอบข้อมูลในจดหมายอย่างละเอียดถี่ถ้วน จากนั้นให้เราตรวจสอบแบบประเมินภาษี สามารถทำตามวิธีคำนวณที่เราได้กล่าวไปข้างต้น เมื่อทำการตรวจสอบข้อมูลทั้งหมดแล้วไม่มีปัญหาใดๆ ให้ทำการรอการจ่ายภาษีได้เลย แต่หากมีปัญหา ก็ควรเร่งรีบทำการยื่นเรื่องแก้ไขข้อมูล ที่สำนักเขตโดยตรงจะดีกว่า เพราะจะได้ไม่เกิดข้อผิดพลาดอื่นๆ ตามมา สุดท้าย เราหวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ให้กับทุกคนนะคะ</p>
</div></div><div style="height: 0; width: "100%"; backgroundColor: " />
Homeday