<div><div> <figure class="wp-block-image size-large"><img src="https://pjyjntwzszymfzyqkfvu.supabase.co/storage/v1/object/public/content/2021/8/d1867951-5525-46b4-b2ee-e1d0f9331cb6.png" alt="" class="wp-image-75840" /></figure> <p>คนไทยทุกคน น่าจะสัมผัสได้ถึงความร้อน ที่สุดแสนจะร้อนแรงได้เป็นอย่างดี ยิ่งช่วงหลายปีหลังๆ ที่ผ่านมานั้น โลกของเรามีสภาพที่เปลี่ยนไป ความรู้สึกเหมือนว่าอุณหภูมิจะสูงขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ร้อนอึดอัดในระหว่างวันจนต้อง พึ่งพาเครื่องปรับอากาศตลอดเวลา ซึ่งนั่นทำให้ค่าไฟบานปลาย สำหรับบางคน อาจมีวิธีการแก้ปัญหาต่างๆ เช่น ไปทำงานข้างนอกบ้าน ห้าง หรือร้านกาแฟ เป็นต้น บางคนก็ใช้วิธีการเปิดแอร์เฉพาะช่วงเวลากลางวันที่อากาศร้อนมาก </p> <p>วันนี้แอดมินจึงอยากแนะนำเคล็ดลับ การลดความร้อน ทำให้บ้านอยู่สบาย รู้สึกเย็นมากขึ้น เน้นวิธีการลดความร้อนด้วยวิธีการธรรมชาติ ซึ่งเหมาะกับคนที่กำลังออกแบบ และแพลนจะสร้างบ้านของตัวเองอยู่ แต่สำหรับคนที่ไม่ได้จะสร้างบ้านใหม่ ก็อาจจะหาวิธีปรับเปลี่ยน หรือรีโนเวทบ้าน เพื่อให้บ้านลดความร้อนลงได้เช่นกัน ถ้าพร้อมแล้วไปอ่านกันเลยค่ะ</p> <h4 id="h-"><strong>จัดสวนบริเวณรอบบ้าน</strong></h4> <p>ต้นไม้ เป็นแหล่งหลักของออกซิเจน และมีการคายน้ำออกมา ทำให้บริเวณที่มีต้นไม้เติบโตอยู่ รู้สึกเย็นสบาย อากาศสะอาด และสดชื่น นอกจากนั้นกิ่งก้านสาขาของต้นไม้ ยังให้ร่มเงา สร้างความร่มรื่นได้อีกด้วย เป็นที่กำบังไอร้อนจากแสงแดดที่ส่องมาบริเวณบ้านได้ ดังนั้นควรจัดพื้นที่สำหรับสวน หรือต้นไม้ไว้รอบๆ บ้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านหน้าด้าน หลัง รอบข้าง บางคนยังทำสวนบริเวณดาดฟ้า และระเบียงอีกด้วย นอกจากต้นไม้ จะให้ความรู้สึกทางกายภาพแล้ว สีเขียวของต้นไม้ ยังทำให้เรารู้สึกผ่อนคลาย สบายใจเมื่อได้มองดูอีกด้วย</p> <p></p> <h4><strong>สังเกตทิศทางของแดดที่เข้ามาสู่บ้าน</strong></h4> <p>เรื่องทิศต่างๆ นั้น นอกจากจะเป็นเรื่องของฮวงจุ้ยแล้ว ยังมีผลอย่างอื่น สำหรับผู้อยู่อาศัยในบ้านอีกด้วย การสร้างบ้านควรจะต้องสัมพันธ์กับทิศทางของแสงแดด ทิศทางที่ดวงอาทิตย์ขึ้น และตก การเลือกตำแหน่งของห้องต่างๆ ที่มีการใช้งานต้องต่างกัน เช่นห้องนอน ควรตั้งทางทิศตะวันออก เพื่อรับแสงแดดในตอนเช้า บางห้องก็สามารถตั้งในทิศทางที่แดดส่องเข้ามาในช่วงบ่ายๆ ได้ เป็นต้น แต่สำหรับห้องนั่งเล่น หรือห้องที่เราจะใช้เวลาอยู่นานๆ ควรจะสร้างไว้ทิศที่แดดไม่ส่องมาโดยตรง จะทำให้ใช้ชีวิตอยู่ในบ้านได้สบายขึ้นนั่นเอง</p> <h4><strong>สังเกตทิศทางลม</strong></h4> <p>นอกจากเรื่องของทิศทางของแดดแล้ว ทิศทางของลมก็เป็นสิ่งสำคัญอีกข้อหนึ่ง ที่เราจำเป็นจะต้องพิจารณา ในช่วงเวลาที่ออกแบบบ้าน เราควรศึกษาในเรื่องของทิศทางลมในสถานที่นั้นๆ ที่เราตั้งใจจะสร้างบ้านก่อน และดูว่าลม มีการพัดผ่านจากทิศทางใดไปยังทิศทางใด เพื่อให้ผู้ออกแบบ หรือสถาปนิกสามารถออกแบบบ้านที่สัมพันธ์ ให้เหมาะสมกับทิศทางลม เพื่อช่วยให้อากาศในบ้านถ่ายเทได้ดี รวมถึงทำให้บ้านเย็น รู้สึกสบายมากขึ้น นอกจากนั้นตำแหน่งของประตูหน้าต่างก็สำคัญเช่นกัน เพราะจะมีผลมาก ต่อเส้นทางที่ลมพัดผ่านในบ้านของเรา และยังมีผลต่ออุณหภูมิของบ้านอีกด้วย</p> <h4><strong>สังเกต และปรับเปลี่ยนวัสดุในการสร้างบ้าน</strong></h4> <p>อีกข้อหนึ่งที่มีผลมากต่ออุณหภูมิของบ้าน คือ วัสดุที่ใช้ในการก่อสร้าง ในปัจจุบันมีวัสดุมากมาย ที่โฆษณาว่าเป็นวัสดุที่ไม่ทำให้บ้านร้อน ไม่กักเก็บความร้อน อีกทั้งยังคลายความร้อนได้ดี ไม่ว่าจะเป็นวัสดุตั้งแต่อิฐก่อสร้างภายใน ซึ่งอาจจะใช้อิฐมวลเบา หรือฉนวนกันความร้อนชนิดต่างๆ กับผนังบ้าน ชายคาที่มีรูระบายอากาศ และยังมีสีทาผนังบ้านที่ทำให้บ้านเย็นขึ้นอีกด้วย เพราะฉะนั้นเราควรเลือกใช้วัสดุอุปกรณ์ในการก่อสร้างบ้านที่จะช่วยลดความร้อน เพื่อให้มีบ้านของเราเย็นสบาย</p> <h4><strong>ใช้น้ำทำให้บ้านเย็นขึ้น</strong></h4> <p>น้ำ สามารถช่วยลดความร้อนได้ดี ไม่แพ้กับต้นไม้ ซึ่งการจัดพื้นที่บางส่วนของบ้านให้มีน้ำไหลผ่าน หรือมีน้ำหมุนเวียน นอกจากช่วยในเรื่องของฮวงจุ้ยแล้ว ยังสามารถทำให้บ้านเย็นสบายมากขึ้นอีกด้วย เราอาจจะสร้างสระว่ายน้ำ น้ำพุ น้ำตก บ่อปลา บ่อบัว เอาไว้ภายในบริเวณบ้าน ทำให้เมื่อเวลาที่ลมพัดผ่าน ก็จะพัดนำไอเย็นมาสู่ร่างกาย และบ้าน เป็นการช่วยลดอุณหภูมิของบ้าน และทำให้เย็นสบายมากขึ้น</p> <p></p> <p>ใครก็คงไม่อยากอยู่ในบ้านร้อนๆ ที่ทำให้รู้สึกไม่สบายตัว ดังนั้นเราจึงควรใส่ใจในการออกแบบ และปรับปรุงบ้านให้สามารถระบายอากาศได้ดี เพื่อความสบายกาย สบายใจของสมาชิกทุกคนในครอบครัว หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ต่อท่านผู้อ่านไม่มากก็น้อยนะคะ</p> </div></div><div style="height: 0; width: "100%"; backgroundColor: " />